วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ดวงเมืองสยามและดวงเมืองเขมร

ดวงเมืองสยามและดวงเมืองเขมรเป็นดวงศัตรูต่อกันตลอดกาล โดย ณัฐ นรรัตน์



เมื่อเดือน 
 ตุลาคมปีพุทธศักราช 2551
  ผู้นำกัมพูชาได้ออกมาประกาศให้ทหารไทยและเจ้าหน้าที่ไทยทุกคนให้ถอนกำลังออกจากบริเวณโดยรอบเขาพระวิหารในเวลาก่อนเที่ยงมิเช่นนั้นจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับทหารและคนไทยทุกๆคนที่ไม่ปฏิบัติตามในทันทีซึ่งยุคนั้นก็ตรงกับหน้าที่ความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีของไทยที่ชื่อ 
สมชาย วงศ์สวัสดิ์โดยแม่ทัพใหญ่ของฝั่งเขมรนั้นมีชื่อและยศที่ยาวกว่าของไทยโดยใช้ชื่อว่า สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน
      
       ต่อมาเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ปีพุทธศักราช 2554 สามปีต่อมาช่วงบ่ายแก่ๆของวันศุกร์ซึ่งเพิ่งจะเลยวันสำคัญทางการทหารของประเทศไทยก็คือวันทหารผ่านศึกมายังไม่ถึงหนึ่งวันดีก็มีรายงานข่าวด่วนในหน้าจอทีวีทุกช่องรายงานข่าวตรงกันว่า ที่จังหวัดศรีสะเกษในอำเภอกันทรลักษ์ตรงบริเวณด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร ที่มีชื่อเรียกบริเวณนั้นว่าภูมะเขือ ได้มีการปะทะกันระหว่างสองประเทศคู่ความกันมาตั้งแต่ครั้งอดีตไม่รู้กี่ร้อยกี่พันปีมาแล้วคือทิ้งระยะเมื่อไหร่เป็นต้องห้ำหั่นต่อกรต่อกระสุนกันเป็นระยะตามช่วงเวลาและดีกรีความโลภของแม่ทัพที่ต้องการผลประโยชน์ของประเทศข้างบ้านมาแต่ไหนแต่ไร
      
       เพียงรอจังหวะของการผลัดเปลี่ยนผู้บริหารประเทศหรือรอชั่งน้ำหนักหมัดผู้บริหารประเทศใหม่ที่จะก้าวขึ้นมาว่าหมัดหนักสักเพียงใด ซึ่งเมื่อทดสอบด้วยตาและด้วยคางเบาะๆโดยการออกโรงด่ากราดตั้งแต่ตัวนายกไทยยันบุพการีและครอบครัวของผู้นำไทยเรื่อยไปจนถึงการทดลองใช้อาวุธเบาจนถึงอาวุธหนักแล้วค่อยดูว่าแม่ทัพใหญ่ของไทยเรามีอาการอย่างไร คือถ้าตอบโต้ด้วยการจัดของหนักเป็นการขู่ปนเอาจริงสมเด็จชื่อยาวคนนี้ก็จะตกใจเบรคสุดตัวหัวทิ่มแต่ถ้าเราเก่งโดยใช้วิวาทะตอบโต้ เขาตบทีเราด่าที เขากระแทกหน้าที เราขอร้องอย่าใช้ความรุนแรงกับเราที เห็นทีจะสิ้นบ้านสิ้นเมืองกันก็คราวนี้ ต่อจากนี้เราลองมาดูกันถึงพื้นดวงประเทศเขมรที่ว่านี้กันดีกว่าว่ามีมุมชะตาที่วิเคราะห์แล้วเป็นอย่างไรบ้าง
      
       ประเทศกัมพูชาดวงชะตาเมืองนั้นมีลัคนาสถิตย์อยู่ในราศีที่เป็นธาตุน้ำคือราศีพิจิกซึ่งมีสัญลักษณ์ราศีคือแมงป่อง หนำซ้ำยังมีดาวพระจันทร์กุมลัคนามีตำแหน่งเสื่อมคือเป็นนิจแปลความได้ว่าประเทศนี้เป็นประเทศที่เก็บตัวตามนิสัยของราศีพิจิกแต่เป็นการเก็บตัวแบบซุ่มเงียบเนื่องเพราะในชะตาเมืองมีดาวในเรือนภพวินาศถึงสี่ดวง เรือนภพนี้ตามตำราว่าไว้ถึงความเก็บซ่อน มีความลับไปจนถึงความพินาศแสดงถึงอนาคตความเติบโตในรูปแบบของความเจริญ ความศิวิไลซ์นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ ประกอบกับดาวการเงินของประเทศเขมรตกอยู่ในจุดมรณะ เป็นจุดเสื่อมอย่างรุนแรงในภาคการเงิน ตามดาวต่อมาเห็นได้อีกชั้นที่ลึกลงไปถึงดาวในเรือนภพมรณะมาสถิตย์อยู่ในภพวินาศนะ
      
       ตามภูมิโหราศาสตร์ย่อมหมายความถึงดวงชะตาของประเทศจากนี้ไปอีกไม่นานจะเข้าขั้นหมดสิ้นสถานะการเงินคงคลัง จะเกิดวิกฤตทางการเงินครั้งใหญ่ของประเทศที่หนักยิ่งกว่าในปัจจุบันหลายร้อยเท่าและจะนำพาไปถึงความพินาศของฝ่ายบริหารแผ่นดิน ความตกต่ำในชีวิตความเป็นอยู่ที่หนักหน่วงยากแค้นกอรปกับมุมดาวเจ้าเรือนอริคือศัตรูโดยเฉพาะภายในกันเองทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายสูญเสียผลประโยชน์และแรงกดดันจากประชาชนในกลุ่มย่อยหลายกลุ่มจะเข้ารวมตัวกันรวมถึงการคอร์รัปชั่นของพรรคพวกตนเองมาอย่างยาวนานย่อมหมายถึงต่อไปจะเกิดการลุกฮือ ในภาคประชาชนเพื่อล้มล้างรัฐบาลจนทำให้เกิดการนองเลือดครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติ
      
       ดาวอาทิตย์หมายถึงผู้นำของประเทศประมุขสูงสุดของประเทศมีตำแหน่งเป็นนิจคือไร้พลัง เป็นเพียงชื่อและหุ่นให้เชิด อยู่ในตำแหน่งวินาศคืออยู่ในมุมอับแสง แสดงถึงสถาบันกษัตริย์ของเขมรมิอาจมีบทบาทต่อประเทศได้เลย เป็นดวงฤกษ์ที่แปลกมากที่จัดให้ระบอบกษัตริย์หมดสิ้นซึ่งอำนาจและบารมี เพราะพระอาทิตย์ที่เป็นเซ็นเตอร์ของจักรวาล ของเมืองและของประเทศไร้คุณภาพและไร้พลังงานโดยสิ้นเชิง บวกกับความเป็นดาวกาลกิณีเนื่องเพราะชะตาเมืองเกิดในวันจันทร์ดาวอาทิตย์ได้ตำแหน่งเป็นกาลีคือเสื่อมสนิทแสดงถึงตราบใดที่ยังไม่มีผู้ใดล้มล้างระบอบฮุนเซ็นแล้วจัดการเปลี่ยนชะตาเมือง เปลี่ยนเมืองหลวงหรือเปลี่ยนสถานที่ตั้งหน่วยงานราชการใหม่ทั้งหมดย่อมยากที่จะยืนหยัดอยู่ได้ในกาลต่อๆไปเพราะดาวตัวแทนสถาบันใหญ่สุดของชาตินั้นหมดพลังงานอย่างสิ้นเชิง
      
       จุดที่น่าสังเกต ดวงเมืองเขมรที่ลัคนาอยู่ในราศีพิจิกกับประเทศไทยของเราอันลัคนานั้นสถิตย์อยู่ในราศีเมษทำให้ตำแหน่งของสองประเทศจึงเป็นตำแหน่งอริและมรณะต่อกัน อีกทั้งดาวเจ้าเรือนตนุคือตัวเมืองตัวแทนประเทศเป็นดาวพระอังคาร ยังอยู่ในตำแหน่งที่เป็นศัตรูอย่างถาวรต่อกัน นำพาให้สองประเทศยากต่อการรักษาไมตรีต่อกันได้แบบยาวนาน ดาวประจำตัวของเขมรเป็นดาวอังคารเป็นดาวแห่งสงครามอยู่ในเรือนดาวพุธคือความขัดแย้งได้ตำแหน่งเป็นมหาจักร จุดนี้ตามตำราโบราณท่านพูดถึงดาวมหาจักรไว้ว่า มหาจักรฟักตัวให้เป็นใหญ่กว่าจะได้ต้องบุกบั่นฟันโฉงเฉง นั่นหมายถึงสงครามครับ ดวงประเทศนี้ต้องการสงครามไม่ว่าจะอีกกี่สิบกี่ร้อยปีก็ไม่มีวันที่จะหยุดการทำสงครามอย่างแน่นอนล้าน% เป็นดวงประเทศที่ไร้ความสงบ เป็นดวงประเทศที่จะได้ผู้นำที่กระหายในสงคราม
      
       ยิ่งดวงของเขมรทำมุมอริกับดวงเมืองไทยเข้าด้วยแล้วคู่ต่อกรที่เป็นปรปักษ์มากที่สุดย่อมหนีไม่พ้นการรุกรานและหาจังหวะเข้ามาขยายอาณาเขตทำสงครามกับ ไทย โดยเฉพาะเมื่อใดที่บ้านเมืองเราผลัดเปลี่ยนผู้บริหารประเทศ วงล้อของอดีตที่เหล่าเสือซุ่มรอคอยเวลาหาจังหวะเข้าเสียบ เข้ารุกคืบในดินแดนของไทยจะพุ่งพรวดทำเนียนเข้าครอบครองพื้นที่กินแดนมาอย่างไม่สนใจสายตาใคร ยิ่งยุคไหนที่ฝ่ายบริหารของเราที่มีหน้าที่ปกป้องอธิปไตยมีผลประโยชน์ทับซ้อนในหน้าที่ เมื่อนั้นแผ่นดินของบรรพบุรุษชาวไทยที่เอาเลือดเข้าแลกเอาเนื้อเข้ารักษาเอากระดูกเข้าก่อเป็นกำแพงเพื่อปกป้องก่อกั้นไม่ให้อริราชศัตรูเข้ามาย่ำยีรุกรานครอบครองผืนดินของไทยและเพื่อส่งต่อแผ่นดินอันเป็นหัวใจของท่านไว้ให้กับลูกหลานสืบต่อเป็นทอดเรื่อยมาจนถึงแผ่นดินในยุคของพวกเรา
      
       วันนี้เขมรก็ยังคงเป็นเขมรในทุกสัดส่วนทุกทรงที่เคยเป็นต่อๆกันมากับประเทศไทย กรรมหรือเวรทางพุทธศาสนาก็ยังคงแสดงให้เห็นถึงการตอบแทนต่อผู้ที่กตัญญูกับชาติกับแผ่นดินในทางดีก็เจริญในทางร้ายก็วิบัติดิ้นรนทุกเข็ญร้อนรนไม่สงบ การสร้างบ้านแปงเมืองอย่างรวดเร็วในวันนี้จากเงินที่มีส่วนมาจากการพนัน การหลอกลวง การคดโกง การหลงและการมอมเมารวมถึงผืนแผ่นดินที่ไม่ใช่ของของตน อาณาเขตบ้านของคนอื่นที่มิใช่ของตนแต่ตนมุ่งหวังอยากได้มาครอบครองโดยมิใช่ความยินยอมของคนส่วนใหญ่นั้น เงินที่มา ทรัพย์สินที่ได้ ผืนดินที่มิใช่เป็นของตนนั้นย่อมนำมาซึ่งความวิบัติต่อตนเอง ต่อผู้ร่วมขบวนการในทุกขั้นทุกชั้นทุกคนทั้งที่เปิดเผยและที่แอบแฝงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ตามเหตุซึ่งก่อร่างสร้างให้เกิดผลในอีกไม่นานตามวิบากและตามสัดส่วนที่ตนได้กระทำเอาไว้.

ขอบคุณ : http://manager.co.th