วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ใบเกิดสัญชาติผู้ดี ตู่เปิดแล้ว จี้มาร์คตอบสละยัง


เสื้อแดงร่วม 4หมื่นชุมนุมอนุสาวรีย์ประ ชาธิปไตย ฟังตู่แฉสัญ ชาติมาร์ค ส่วนกิจกรรมช่วงเช้ามีพิธีอาลัย 6 ศพวัดปทุมฯ เหยื่อร่วมรำลึกวันโดนไล่ยิง โดย 9 เดือนคดีไม่คืบ ส่วนช่วงบ่ายธิดานำเสื้อแดงเดินเท้าจากราชประสงค์ไปศาลฎีกา อ่าน จ.ม.แกนนำนปช.จากคุก ก่อนแยกย้ายไปรวมตัวกันตอนค่ำ ด้านมาร์คเจอถามให้ยืนยันถือสัญชาติไทยสัญชาติเดียว เจ้าตัวตอบว่า "ผมถือสัญชาติไทย"

บช.น.แจงดูแล 6 กลุ่มชุมนุม
เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกบช.น. กล่าวหลังการประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องที่ ศปก.น. เพื่อดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหว ว่า ผลการตั้งด่านตรวจต่างๆ ที่ผ่านมาเหตุการณ์เรียบร้อยดี มีเพียงการยึดรถต้องสงสัย 87 คันไว้ตรวจสอบหลักฐานต่างๆ จับกุมรถที่เตรียมแข่งตามความผิดพ.ร.บ.จราจร 73 ราย พก อาวุธมีด 1 ราย ยาเสพติด 3 ราย เยาวชนประพฤติตนไม่สมควรนำส่งกลับบ้าน 7 ราย และการพนัน 1 ราย
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า ขณะนี้มีกลุ่มผู้ชุมนุมในกทม. ทั้งหมด 6 กลุ่ม 1.กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ อยู่บริเวณถนนพิษณุโลก ยอดผู้ชุมนุม 300 คน 2.กลุ่มพันธมิตรฯ ที่บริเวณถนนราชดำเนินและสะพานมัฆวานฯ มีประมาณ 300 คน 3.สมาพันธ์ชุมชนแห่งประเทศไทย ที่กระทรวงการคลัง ประมาณ 30 คน 4.กลุ่มลูกจ้างบริษัทแม็กซิส และพีซีบี ที่หน้ากระทรวงแรงงาน ประมาณ 1,000 คน 5.กลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม เช่น เขื่อนปากมูล กลุ่มที่ทำกิน ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า 2,000 คน และ 6.กลุ่มนปช. ที่จะเริ่มรวมตัวกันจะชุมนุมที่ราชประสงค์ตอนเที่ยง และเคลื่อนขบวนไปหน้าศาลฎีกาสนามหลวงประมาณบ่ายสองโมง โดยมีกลุ่ม นปช.บางส่วนรออยู่ศาลฎีกาแล้ว และเวลาประมาณบ่ายสามโมงก็จะมารวมตัวที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ส่งชุดจู่โจมประกบเสื้อแดง
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อว่า ส่วนพื้นที่บริเวณราชประสงค์ ให้ชุมนุมบริเวณถนนราชดำริตั้งแต่ฝั่งราชประสงค์จนถึงแยกประตูน้ำ และเปิดเส้นทางการจราจรถนนพระราม 1 โดยให้กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปทางถนนเพชรบุรี และพยายามให้รถประจำทางใช้เส้นทางได้ตามปกติ ระหว่างการเคลื่อนขบวนก็จะควบคุมให้อยู่ในเส้นทางที่กำหนด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ตำรวจ สน.ใกล้เคียง และชุดจู่โจมประกบไปตลอดทาง ที่บริเวณศาลฎีกาก็ห้ามเข้ามาในบริเวณแนวแผงเหล็กที่กั้นเอาไว้ ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมใช้รถยนต์ และรถจยย. หากไปก่อกวน หรือปิดกั้นตามที่ต่างๆ นั้นจะดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด

ผบ.ตร.ฝากแดงดูแลกันเอง
เมื่อเวลา 12.45 น. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. เดินทางมาตรวจความเรียบร้อยบริเวณบ้านพักนายกรัฐมนตรีซอยสวัสดี จากนั้นเผยว่า มาดูแลความเรียบร้อยเพราะมีการสับเปลี่ยนกำลังกันใหม่ และมีผู้กำกับมาอยู่ใหม่ จึงต้องปรับแผนดูแลให้เข้มข้นมากขึ้น ประกอบกับในพื้นที่นี้ก็อยู่ในประกาศพ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จึงต้องเน้นตรวจสอบบุคคลที่เข้าออก โดยให้เน้นสังเกตบุคคลที่มีลักษณะน่าสงสัย
เมื่อถามถึงสถานการณ์การชุมนุมในวันนี้ระหว่างกลุ่มเสื้อแดงกับเสื้อเหลือง พล.ต.อ. วิเชียรกล่าวว่า กำลังที่เตรียมไว้น่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไร อย่างไรก็ตามได้ประสานไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่มีจำนวนมากให้ดูแลกันเองในส่วนหนึ่งด้วย

มาร์คพูดวน′ผมสัญชาติไทย′
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มนปช.ชุมนุมเคลื่อน ไหวและเตรียมหยิบยกเอาสัญชาติโดยมีการเตรียมนำหลักฐานสูติบัตรที่เกิดเมืองนิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษมาแฉว่า ประเด็นมีอยู่ว่า มีสัญชาติไทยและใช้สัญชาติไทยมาโดยตลอด ในการสมัครรับเลือกตั้งและทำสิ่งต่างๆ ซึ่งผู้ที่กล่าวหาต้องไปอ่านกฎหมายไทยว่ากฎ หมายไทยเขียนว่าอย่างไร กรณีเวลาที่มีกฎ หมายไปขัดกับกฎหมายประเทศอื่นๆ "ผมเป็นคนไทยผมก็ถือตามกฎหมายไทย"
"ผมเกิดที่ไหน ผมเปลี่ยนที่เกิดผมไม่ได้อยู่แล้ว ผมเกิดที่ไหนก็เกิดที่นั่นแหละครับ แต่ผมก็ไม่ได้ใช้สิทธิ์ เพราะตอนที่ผมเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ผมก็จ่ายเงินในฐานะเป็นนักเรียนต่างประเทศ และผมเดินทางไปอังกฤษตั้งแต่บรรลุนิติภาวะมาไม่รู้กี่ครั้ง ก็ต้องใช้วีซ่าเข้าประเทศเพราะฉะนั้นก็เป็นเรื่องที่น่าจะชัดเจนในตัวของมันอยู่แล้ว" นายอภิสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามย้ำว่า สามารถเลือกสัญชาติได้ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "สำหรับกฎหมายไทยเขียนไว้ชัดเจนว่า ผมได้สัญชาติไทยโดยการเกิด ตรงนี้จึงต้องยึดถือตามกฎหมายไทย ซึ่งกฎหมายไทยมีทั้งกฎหมายสัญชาติและกฎหมายที่บอกว่า เวลาที่กฎหมายไทยกับกฎหมายประเทศอื่นขัดกันหรือไม่อย่างไร ให้ถือเอากฎหมายไทย
เมื่อถามว่ายืนยันใช่หรือไม่ว่า นายกรัฐมนตรีถือเพียงสัญชาติไทยเพียงสัญชาติเดียว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ผมถือสัญชาติไทยครับ"

จัดอาลัย6ศพวัดปทุมฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.00 น. ที่วัดปทุมวนาราม มีงานรำลึกและไว้อาลัยให้กับน.ส.กมนเกด อัคฮาด หรือน้องเกด พยาบาลอาสา และนายมงคล เข็มทอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง รวม 6 ศพ ที่เสียชีวิตภายในเต็นท์พื้นที่เขตอภัยทาน วัดปทุมวนาราม และประชาชนอีกกว่า 90 ศพ ที่เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมของรัฐบาล เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีนายวสันต์ สายรัศมี หรือเก่ง กู้ภัย ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว และนายสมใจ เข็มทอง พี่ชายนายมงคล เข็มทอง เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และนายบัวศรี ทุมมา อายุ 68 ปี เหยื่อกระสุนปืน ถูกยิงบริเวณฝ่าเท้าข้างซ้ายบาดเจ็บสาหัส ปัจจุบันยังต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็นครั้งที่ 2 ได้เดินทางมาร่วมงานรำลึกครั้งนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บรรยากาศภาย ในงานเป็นไปด้วยความเศร้าโศกต่อการจากไปของเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยและประชา ชน มีสมาชิกเสื้อแดงมาร่วมงานกว่า 200 คน และได้นำดอกกุหลาบแดงมาวางเพื่อไว้อาลัยที่หน้ารูปถ่ายของผู้เสียชีวิตเหล่านี้ ใช้เวลากว่า 30 นาที จึงเสร็จสิ้น จากนั้นก็เดินทางไปรวมตัวบริเวณสี่แยกราชประสงค์ เพื่อร่วมขบวนกับแกนนำนปช.ที่จะเดินทางไปยังศาลฎีกา สนามหลวง
รวมพลัง - กลุ่มเสื้อแดง 4 หมื่นรวมตัวบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย รำลึก 9 เดือน เหตุ การณ์สลายการชุมนุม 91 ศพ หลังไปยื่นขอความเป็นธรรมที่ศาลฎีกา เมื่อวันที่ 19 ก.พ.

ในช่วงบ่ายต่อไป





โวย9เดือนคดีไม่คืบ
นายวสันต์ สายรัศมี กล่าวทั้งน้ำตาว่า เหตุการณ์ขณะนี้ผ่านไปกว่า 9 เดือน ก็ยังคงระลึกถึงพวกเขาที่เป็นเพื่อน เป็นพี่น้องประชาชนที่เคยมาอยู่ร่วมกับบริเวณนี้ และสถานที่แห่งนี้ตนก็เคยใช้นอนกับเพื่อนๆ ที่เสียชีวิต ในวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา และสุดท้ายพวกเขาก็ต้องมาจากไปเพราะฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งพื้นที่ตรงนี้ได้ประกาศให้เป็นพื้นที่เขตอภัยทานแต่กลับไม่มีการละเว้น เจ้าหน้าที่ได้ระดมยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่พยาบาลอาสา และกู้ภัยอย่างไม่ยั้งจนเสียชีวิต ซึ่งในวันนั้นอยากถามว่าทำไมถึงไม่คิดสักนิดหรือว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นเขตอภัยทาน และคนที่จะยิงใส่เป็นประชาชนคนไทยเหมือนกัน ก่อนหยิบปืนขึ้นมายิงคิดหรือไม่ช่วยตอบด้วย และการมารำลึกของตนครั้งนี้เป็นการมารำลึกครั้งที่ 2 และจะยืนเคียงบ่าต่อสู้เพื่อความยุติธรรมร่วมกับพี่น้องประชา ชนตลอดไปถึงจะตายก็ยอม
นายสมใจ เข็มทอง กล่าวว่า ขณะนี้เหตุการณ์ผ่านมา 9 เดือน คดีความไม่มีความคืบหน้าเลยทั้งๆ ที่มีพยานหลักฐานมากมาย และมีเจ้าหน้าที่ที่ออกมาปฏิบัติหน้าที่วันนั้นหน้าวัดปทุมฯ ก็ยอมรับว่าได้รับคำสั่งมาและได้ใช้อาวุธปืนประจำกาย เอ็ม 16 ยิงเข้าใส่ประชาชนในวัดปทุมวนารามนี้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะต่อสู้ร่วมกับพี่น้องคนเสื้อแดงต่อไปจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม

เหยื่อปืนย้อนอดีตถูกระดมยิง
ด้านลุงบัวศรี ทุมมา เหยื่อกระสุนปืน กล่าวว่า เหตุการณ์ของตนเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พ.ค. ขณะวิ่งเข้ามาหลบในวัด ในวันนั้นช่วงเย็นๆ ได้เห็นมีกำลังเจ้าหน้าที่จำนวน 5 นาย พร้อมอาวุธปืนประจำกายยืนอยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส หน้าวัดปทุมวนาราม ชั้นที่ 3 จากนั้นไม่นานกลุ่มเจ้าหน้าที่ดังกล่าวก็ได้ระดมยิงปืนใส่เข้ามาในวัดชุดใหญ่ จนประชาชนที่อยู่ข้างในต่างวิ่งหลบกระสุนปืนอย่างวุ่นวาย และเห็นมีคนเสื้อแดงถูกยิงล้มหลายคน ส่วนตนหลบอยู่ใต้ท้องรถบริเวณหน้าทางเข้าวัด แต่ก็ยิงใส่รถจนกระสุนลงมาถูกบริเวณหน้าขาซ้ายจนทะลุ ก่อนที่เก่ง กู้ภัย จะเข้ามาลากเข้าไปข้างใน และขณะนี้ผ่านมา 9 เดือนแล้วตนก็จะยังคงขอต่อสู้ต่อไป เพื่อความเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาน้องเกด นั้นช่วงที่มีการรำลึกบริเวณวัดปทุมวนาราม ไม่ได้มาร่วมงานด้วย เนื่องจากติดภารกิจต้องนำสมาชิกเสื้อแดงจากร่มเกล้า ลาดกระบัง หนองจอก และมีนบุรี มาสมทบที่ราชประสงค์

ตำรวจตรึงเข้มแดงชุมนุม
จากนั้นเวลา 11.00 น. กลุ่มแดงสยามได้นำสมาชิกเสื้อแดงหลายร้อยคน ที่ทยอยมาถึงมารวมตัวอยู่ข้างรั้วด้านนอกของวัดปทุมฯ พร้อมทั้งมีการปราศรัยโจมตีรัฐบาลบนรถโมบาย มีเนื้อหาโจมตีกรณีที่เจ้าหน้าที่ใช้อาวุธยิงใส่ประชาชนบริเวณราชประสงค์ และยิงใส่พยาบาลอาสาภายในวัดปทุมวนา รามจนเสียชีวิต อย่างดุเดือด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 12.40 น. บรรยา กาศบริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สี่แยกราชประสงค์ มีกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงทยอยเดินทางมายังพื้นที่อย่างต่อเนื่องจำนวนมาก ส่วนใหญ่ผู้ชุมนุมยังคงปักหลักอยู่บนทางเท้ายังไม่ลงมาพื้นถนน มีกำลังตำรวจเริ่มเข้ามายืนอยู่ตามจุดต่างๆ เป็นระยะตั้งแต่แยกประตูน้ำ จนถึงวัดปทุมวนาราม พร้อมกับเริ่มตั้งจุดตรวจบริเวณแยกประตูน้ำ และรอบพื้นที่จะที่เข้ามาในพื้นที่การชุมนุม เพื่อป้องกันมือที่สามอาจจะเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่การชุมนุมได้

3หมื่นเคลื่อนขบวนไปศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมและการเคลื่อนขบวนของกลุ่มแนวร่วม นปช. บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงบ่าย ทางกลุ่มผู้ชุมนุมทยอยเดินทางมายังบริเวณพื้นที่อย่างต่อเนื่องหลายหมื่นคน จนเจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรตลอดทั้งสาย ตั้งแต่แยกประตูน้ำ มาจนถึงแยกราชประสงค์ เนื่องจากผู้ชุมนุมได้นํารถยนต์ รถจักรยานยนต์จํานวนมากลงไปจอดบนผิวการจราจร โดยหันหน้ารถไปยังแยกประตูน้ำ เพื่อรอคําสั่งแกนนําในการเคลื่อนขบวนไปยังศาลฎีกา
เวลา 15.00 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนํา นปช.และนางธิดา โตจิราการ ประธาน นปช.ได้เดินทางมาขึ้นรถปราศรัยที่ราชประสงค์ และสั่งเคลื่อนขบวนทันที ใช้เวลาเดินทางนานกว่า 1 ชั่วโมง เนื่องจากขบวนมีความยาวหลายกิโล และมีผู้ชุมนุมเสื้อแดงเข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 30,000 คน เมื่อมาถึงหน้าศาลฎีกา นายจตุพร และนางธิดา ได้ปราศรัยพูดคุยกับผู้ชุมนุม

ตู่ครวญหา′ยุติธรรม′
นายจตุพร กล่าวปราศรัยบริเวณหน้าศาลฎีกา ว่า การยื่นขอประกันตัวพี่น้องคนเสื้อแดงนั้นเป็นความเจ็บปวดที่ขมขื่นที่สุด นับตั้งแต่ไปมอบตัวในวันที่ 19 พ.ค. 2553 ไม่เคยได้รับการปฏิบัติตามประมวลพิจารณาความอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญาแม้แต่เพียงครั้งเดียว หลักตามรัฐธรรมนูญระบุชัดเจนว่าให้สันนิษฐานว่าผู้ต้องหาเป็นผู้บริสุทธิ์ หรือจําเลยเป็นผู้บริสุทธิ์ก่อนคดีจะถึงที่สุดซึ่งเป็นปรัชญาของกฎหมายที่สําคัญ แต่ว่าไม่มีการดําเนินการกับฝ่ายลั่นกระสุนปืนฆ่าประชาชน
นายจตุพรกล่าวต่อว่า การตั้งข้อกล่าวหาให้พวกผมฆ่ากันตายเอง 91 ศพ โดยไม่มีการชันสูตรพลิกศพ ซึ่งวิธีการพิจารณาความอาญามาตรา 150 ระบุชัดว่าต้องชันสูตรพลิกศพให้ชัดเจนก่อนส่งอัยการ และอัยการจะนําไปไต่สวนในศาลชั้นต้นพื้นที่นั้น ถึงสาเหตุของการตายว่าตายเพราะสาเหตุอะไร ใครเป็นคนร้ายทําให้ตาย แต่คดีของคนเสื้อแดงไม่มีการชันสูตรพลิกศพ แล้วก็ใช้วิธีฟ้องโดยไม่ได้ปฏิบัติตามกระบวนวิธีพิจารณาความอาญาว่าฆ่ากันตายเอง 91 ศพ ดีเอสไอทําผิดกฎหมายยื่นให้อัยการ นอกจากนี้ไปร้องความเป็นธรรมที่อัยการ บอกว่าดีเอสไอไม่ปฏิบัติตามวิธีพิจารณาความอาญา ก็ได้รับคําตอบว่าทางดีเอสไอไม่เคยสอบพยานฝ่ายจําเลยแม้แต่เพียงปากเดียว คดีคนเสื้อแดงนี้ผิดกับคดีพันธมิตรที่ยึดทําเนียบ สนามบิน
1.-2.บรรยากาศม็อบพันธมิตรฯบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ช่วงเย็นที่ 19 ก.พ.
ขับรถทับตํารวจ แต่กลับให้รอลงอาญาบันดาลโทสะ แต่คนเสื้อแดงปาไข่ยังติดคุก





ธิดาตัวแทนอ่านจม.จากคุก
จากนั้นนางธิดาได้เป็นตัวแทนอ่านจดหมายปรับทุกข์ของแกนนํา นปช.ทั้ง 7 คน มีความหนา 4 หน้ากระดาษ โดยหน้าประตูทางเข้าศาลฎีกา ได้มีกำลังตํารวจหญิงจากนครบาล 1 ประมาณ 100 คนตั้งแถวอยู่ และมีหน่วยชุดปะฉะดะ นํารถจักรยานยนต์มาจอดขวางประตูอีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมบุกเข้าไปข้างใน และภายในศาลมีกำลังตํารวจปราบจลาจล พร้อมกระบองตั้งแถวอยู่หลายกองร้อย
สำหรับเนื้อหาในจดหมายที่นางธิดาอ่านระบุว่า จดหมายนี้เขียนออกมาจากเรือนจําพิเศษกรุงเทพฯ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ดังนี้ เรียนท่านผู้พิพากษาที่เคารพ กระผมแกนนํา นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายจากเหตุการณ์ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในช่วงเดือนมี.ค.-พ.ค. 2553 มีความจําเป็นต้องเขียนจดหมายปรับทุกข์อีกครั้ง เพราะทันทีที่ศาลอาญามีคําสั่งไต่สวนคําร้องขอประกันตัวของพวกกระผมในวันที่ 21 ก.พ.นี้ถือเป็นโอกาสครั้งสําคัญที่ไม่เคยได้รับมาก่อนในการยื่นคําร้องขอประกันตัวหลายครั้งที่ผ่านมา จึงขอแสดงความขอบ คุณในความกรุณา ณ โอกาสนี้ ขณะเดียวกันหากพิจารณาจากแนวทางการวินิจฉัยของศาลในการอนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายจากการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มต่างๆ ทั้งกรณี นายวีระ มุสิกพงศ์ ประ ธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน จําเลยที่ 1 ในคดีเดียวกันกับพวกกระผม หรือนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนํากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ยิ่งทําให้อดตั้งความหวังไม่ได้ว่าพวกกระผมน่าจะได้รับความกรุณาจากกระบวนการยุติธรรมในมาตรฐานเดียวกัน



ตั้งข้อสังเกต 5 ข้อ
นอกจากนั้นเนื้อหาในจดหมายยังได้สรุปสาระสําคัญของคําสั่งศาลอุทธรณ์ลงวันที่ 30 ก.ค.2553 กรณีอนุญาตให้ประกันตัวนายวีระเทียบเคียงกับกรณีแกนนำ นปช.ที่ถูกคุมขังอยู่รวม 5 ข้อ
1.ศาลอุทธรณ์ไต่สวนได้ความจากนาย กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมน ตรีผู้เจรจากับผู้ต้องหา (นายวีระ) ก่อนการยุติการชุมนุมว่าผู้ต้องหาไม่มีแนวทางในการใช้ความรุนแรง และผู้ต้องหาเห็นด้วยกับแผน ปรองดองแห่งชาติที่เสนอโดยนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนําพวกกระผมยืนยันว่าแนวทาง สันติวิธีไม่ใช้ความรุนแรง เป็นแนวทางเดียวในการต่อสู้ของ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ดังที่ปรากฏชัดเจนในหลักนโยบาย 6 ข้อ ซึ่งได้แถลงต่อสื่อมวลชนและระบุในบัตรประจําตัวของสมาชิก นปช.รวมทั้งเนื้อหาในโรงเรียน นปช.ซึ่งเปิดหลักสูตรทุกภูมิภาคก่อนการชุมนุมใหญ่ ส่วนแผนปรองดองแห่งชาติที่เสนอโดยนายกรัฐมนตรีนั้น ที่ประชุมแกนนํา นปช. แดงทั้งแผ่นดินมีมติรับหลักการและตอบรับวันเลือกตั้ง 14 พ.ย.2553 ดังที่ได้แถลงต่อสื่อมวลชนบนเวทีการชุมนุม เพียงแต่สถานการณ์หลังจากความสูญเสียเกือบ 30 ชีวิต บาดเจ็บอีกเป็นจํานวนมาก จากเหตุ การณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย. มีความละเอียดอ่อนต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้ชุมนุมเป็นอย่างยิ่ง จําเป็นต้องใช้เวลาและกระบวนการในการทําความเข้าใจ พวกกระผมพยายามอย่างที่สุดในการหาข้อยุติที่ทุกฝ่ายได้รับจากรัฐบาล เมื่อไม่ประสบผลก็ใช้ความพยายามต่อไป โดยตอบรับการเสนอตัวเป็นตัวกลางจนได้ข้อสรุป นัดหมายเจรจากับฝ่ายรัฐบาลที่อาคารรัฐสภาในช่วงเช้าวันที่ 19 พ.ค. โดยนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา รับเป็นผู้ดําเนินการตามที่พวกกระผมและตัวแทนสมาชิกวุฒิสภาแถลงต่อสื่อมวลชนร่วมกันในวันที่ 18 พ.ค. แต่การเจรจาไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพราะมีการใช้กำลังล้อมปราบตั้งแต่เช้ามืดของวันที่ 19 พ.ค.
อย่างไรก็ตามพวกกระผมเห็นว่าการเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับแผนปรองดองของนายกฯ ไม่น่าจะเป็นสาเหตุการจําขัง และไม่น่าจะเป็นเหตุผลในการไม่ได้รับการประ กันตัว เพราะการปรองดองจะเกิดขึ้นได้ก็จากความจริงใจ และการร่วมมือกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดังปรากฏข้อสังเกตที่สําคัญ คือ ข้อเสนอจากคณะกรรมการอิสระแสวง หาข้อเท็จจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ หลายข้อก็ยังไม่ได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลแม้แต่ข้อเดียว ด้วยเหตุนี้จะนําตัวมาจําขังไว้โดยไม่อนุญาตให้ประกันตัวก็ย่อมเป็นไปไม่ได้


ยันไม่คิดหลบหนี
2.กรมสอบสวนคดีพิเศษจัดให้ผู้ต้องหาประเภทแกนนํากลุ่มผู้ชุมนุมที่ไม่มีหัวรุน แรง ปัจจุบันข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไปโดยการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว กรมสอบสวนคดีพิเศษไม่คัดค้านการขอปล่อยตัวชั่วคราวของผู้ต้องหา พวกกระผมมิอาจทราบได้ว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษจัดไว้ในประเภทแกนนํากลุ่มใด แต่รับรู้ตลอดมาว่าการดําเนินการของกรมสอบสวนคดีพิเศษในคดีนี้เต็มไปด้วยข้อกังขา วิพากษ์วิจารณ์เรื่องความชอบธรรมและเที่ยงธรรมตลอดเวลา และหากถือว่าการไม่คัดค้านการประกันตัวของกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นเหตุผลในการพิจารณา เจ้าพนักงานอัยการก็ไม่คัดค้านการประกันตัวของพวกกระผมตั้งแต่วันสั่งฟ้อง 11 ส.ค.2553 เช่นเดียวกัน
3.ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวต่อเจ้าพนักงานทั้งที่อยู่ในวิสัยที่พึงทราบว่าตนจะถูกดําเนินคดี รวมทั้งทราบถึงความหนักเบาแห่งข้อหาและอัตราโทษ ในประเด็นนี้เป็นที่ชัดเจนว่า พวกกระผมเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ทันทีที่ยุติการชุมนุมด้วยสติสัมปชัญญะครบถ้วน จึงรับทราบข้อกล่าวหาและอัตราโทษเป็นอย่างดี ทั้งที่มีโอกาสหลบหนีก็มิได้กระทํา
4.ขณะนี้สถานการณ์ของประเทศคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นโดยรัฐบาลยกเลิกการควบคุมดูแลสถานการณ์ฉุกเฉินในหลายพื้นที่แล้ว หากวันที่ 30 ก.ค.2553 ถือว่าสถาน การณ์ดีขึ้นย่อมพิจารณาได้ว่า ณ ปัจจุบันสถานการณ์ดียิ่งขึ้นไปอีกเพราะรัฐบาลประกาศยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินในจังหวัดที่เหลือไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และรับทราบกันโดยทั่วไปว่าการชุมนุมโดยกลุ่ม นปช.แดงทั้งแผ่นดินทุกครั้งที่ผ่านมาไม่เคยปรากฏสถานการณ์อันไม่พึงปรารถนาแต่อย่างใด
5.พฤติกรรมเชื่อว่าหากปล่อยชั่วคราวจะไม่หลบหนี ประกอบกับการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ผู้ต้องหาไม่น่าจะมีโอกาสไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรืออุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของเจ้าพนักงาน หรือการดําเนินคดีในศาลต่อไปได้
ตลอด 4-5 ปีของการต่อสู้ พวกกระผมไม่เคยมีพฤติการณ์หลบหนีในทุกคดีที่ถูกกล่าวหา ส่วนการยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะการสอบสวนเสร็จสิ้นไปแล้วหลายเดือนก่อนหน้านี้ อีกทั้งนายวีระ จําเลยที่ 1 ซึ่งได้รับการประกันตัวก็ไม่เคยกระทําการอันเป็นอุปสรรคต่อการพิจารณาคดีแต่อย่างใด

หวังประกันแดงทุกคน
นอกจากนั้นเนื้อหาในจดหมายยังระบุอีกว่า สาระสําคัญที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยให้ประกันตัวนายวีระ แทบไม่มีอะไรแตกต่างไปจากพวกกระผมเลย เมื่อเป็นเช่นนี้อิสรภาพของพวกกระผมก็เริ่มมีลมหายใจ ในขณะเดียวกันอิสรภาพของพี่น้อง นปช. อีกเกือบ 200 ชีวิตทั่วประเทศก็เป็นสิ่งที่คิดได้หวังได้ และควรจะได้หากเทียบเคียงกับอิสรภาพที่ผู้ชุมนุมกลุ่มอื่นได้รับตลอดมา
สำหรับจดหมายในช่วงท้าย สรุปว่า ต้องขออภัยในสิ่งที่อาจเป็นความไม่สะดวกของท่านผู้พิพากษาในการชุมนุมของ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน บริเวณหน้าศาลอาญา และศาลฎีกา แต่ขอได้โปรดเข้าใจว่าพวกเขาไม่ได้ไปกดดัน เพราะเป้าหมายมิได้อยู่ที่ตัวท่าน พวกเขาไปเรียกร้องความยุติธรรม เพราะเป้าหมายอยู่ที่ความยุติธรรม เพราะความยุติธรรมมิได้เป็นสมบัติส่วนตัวของบุคคลใด จึงหวังว่าท่านผู้พิพากษาที่ทําหน้าที่อํานวยความยุติธรรมจะแบ่งปันสิ่งนี้ให้กับคนไทยอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม

อ่านจ.ม.จบก็สลายตัว
หลังจากอ่านจดหมายจบ นางธิดาได้ประ กาศให้ผู้ชุมนุมทั้งหมดสลายแล้วไปรวมตัวกันบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อร่วมรําลึกให้กับผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมในเดือนเม.ย.และพ.ค. 91 ศพต่อไปในช่วงเย็นวันเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเวลาประมาณ 16.00 น.ผู้ชุมนุมหลายหมื่นคนได้มารวมตัวกันบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อร่วมชุมนุมอีกรอบ ส่วนใหญ่ก็ยังคงนั่งหลบแดดอยู่ตามใต้ต้นไม้ เพื่อรอแกนนําเดินทางมา และรอดูใบเกิดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่นายจตุพรจะนํามาเปิดในเย็นวันนี้
ตู่ขึ้นเวทีโหมโรงสัญชาติ
จากนั้นเวลา 18.00 น. นายจตุพร พร้อมแกนนำนปช. ปรากฏตัวหน้าเวทีพร้อมเชิญชวนมวลชนคนเสื้อแดงยืนตรงเพื่อร่วมร้องเพลงชาติไทยในการเคารพธงชาติ ก่อนกล่าวกับผู้ชุมนุมว่า มีเจ้าหน้าที่ไปรายงานต่อรัฐบาลว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงมีเพียง 13,000 คน ก็เลยไปบอกว่าคนราชดำเนินมีเพียง 300 คน แต่มัฆวานรังสรรค์มีคนเป็นแสนคน ขอให้รัฐบาลเชื่อไป เพราะพี่น้องทั้งข้างหน้าจนถึงข้างหลังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเต็มไปหมด ยิ่งมืดยิ่งเต็ม 300 คนจะเอาอะไรได้มาก เดี๋ยวคืนนี้นายอภิสิทธิ์จะยิ่งร้อนในเรื่องสัญชาติ เขาบอกว่ามีสัญชาติไทยตนก็ไม่เถียง แต่ที่มีสัญชาติอังกฤษ เดี๋ยวมืดๆ จะได้ดูที่หน้าจอ เพราะทีมกฎหมายได้ไปคัดสูติบัตรจากประเทศอังกฤษเป็นที่เรียบร้อย และจะพูดเรื่องสัญชาติ รวมทั้งกระบวนการประกันตัวของพี่น้องนปช. และข้อเสนอของนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธานคณะกรรมการพิจารณาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ
แดงแห่ร่วมชุมนุมร่วม 4 หมื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่ม นปช.บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ว่า ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล หรือน้องเดียร์ ลูกสาว พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกที่ถูกสไนเปอร์ยิงเสียชีวิตบริเวณสวนลุมพินี ได้เดินทางมาขึ้นเวทีปราศรัยเพื่อพูดคุยกับผู้ชุมนุม โดยน.ส.ขัตติยาได้ประกาศว่าจะขอต่อสู้ร่วมกับพี่น้องคนเสื้อแดง และขอให้คนเสื้อแดงรับเป็นลูกสาวอีกคนหนึ่ง และการต่อสู้ของคนเสื้อแดงในวันนี้บิดาที่เสียชีวิตกำลังมองดูพวกเราอยู่บนฟ้า และสักวันพวกเราจะต้องได้รับชัยชนะขอให้ทุกคนสู้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ส่วนบรรยากาศในพื้นที่การชุมนุมบริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินตลอดสายหนาแน่นไปด้วยคนเสื้อแดงที่มาร่วมงานจํานวนมาก ไม่ต่ำกว่า 40,000 คน เนื่องจากส่วนใหญ่ต้องการรอดูนายจตุพรแฉกรณีใบเกิดของนายอภิสิทธิ์ โดยรอบพื้นที่มีกำลังตํารวจนครบาลหลายกองร้อยมาประจําการอยู่ และตั้งจุดตรวจอย่างเข้มงวด ร่วมกับการ์ด นปช.และยังไม่พบเหตุรุนแรงใดๆ

จี้โชว์สละสัญชาติ
เวลาประมาณ 20.00 น. นายจตุพรขึ้นกล่าวบนเวทีพร้อมโชว์สำเนาใบเกิดของนายอภิสิทธิ์ ที่คัดลอกจากเมืองนิวคาสเซิล ประ เทศอังกฤษมาแสดง โดยนายจตุพรกล่าวว่า คนที่เกิดก่อนปีพ.ศ. 2526 จะได้สัญชาติอังกฤษ ถ้านายอภิสิทธิ์ไม่ได้ถือสัญชาติอังกฤษ ก็ต้องเอาใบสละสัญชาติมาโชว์ต่อที่สาธารณะ


โชว์ใบเกิดนิวคาสเซิล
นายจตุพรกล่าวด้วยว่า เอกสารนี้สำนักทนายของนายโรเบิร์ตได้ไปคัดลอกมาเมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นเอกสารที่ออกโดยสำนักทะเบียนกลาง เอกสารเลขที่ 2997018/1 ระบุว่า ด.ช.มาร์ค อภิสิทธิ์ เกิดเมื่อวันที่ 3 ส.ค.1964 ที่โรงพยาบาลริชาร์ด เฟลโล กิ่ง อ.วิกตอเรีย ในเขตเมืองนิวคาสเซิล อพอนไทน์ โดยแจ้งลงทะเบียนการเกิดเมื่อวันที่ 4 ส.ค.1964 มีสำนักทะเบียนการเกิด ประเทศอังกฤษรับรองว่าเป็นสำเนาจริง
นายจตุพรกล่าวอีกว่า มนุษย์ทั่วโลกไม่สามารถเลือกที่เกิดได้ ไม่สามารถเลือกสัญชาติได้ ที่นายอภิสิทธิ์มีสัญชาติไทยเพราะมีพ่อแม่เป็นคนไทย และมีสัญชาติอังกฤษเพราะเกิดที่นั่น จึงถือเป็นคน 2 สัญชาติ ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดเลยเพราะมีคนถือ 2 สัญชาติมากมาย แต่เพราะเหลือเพียงช่องทางเดียวที่จะฟ้องนายอภิสิทธิ์ขึ้นศาลโลก คือการที่นายอภิสิทธิ์ถือสัญชาติอังกฤษ ซึ่งเรื่องนี้นายอภิสิทธิ์ไม่เคยตอบความจริงกับประชาชน เหมือนคดีหนีทหาร ถ้าวันนี้เป็นลูกผู้ชายต้องตอบความจริงอย่างตรงไปตรงมา
เวลา 21.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยา กาศการชุมนุมว่า ช่วงที่นายจตุพรขึ้นเวทีปราศรัยว่านายอภิสิทธิ์ถือสองสัญชาติ โดยเริ่มขึ้นปราศรัยตั้งแต่เวลาประมาณ 20.00 จนถึงเวลา 21.20 น. จึงเสร็จสิ้น สร้างความสนใจให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่รอฟังเป็นจำนวนมาก จากนั้นก็เป็นการปราศรัยของสมาชิกเครือข่ายที่มาจากภาคต่างๆ สลับดนตรี เพื่อผ่อนคลายความตรึงเครียด โดยยังไม่มีเหตุ การณ์รุนแรง และยังคงมีผู้ชุมนุมปักหลักหน้าเวทีจํานวนมากเช่นเดิม






ขอบคุณ : หนังสือพิมพ์ข่าวสด