วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เด็กล้วงคอ"สทศ."แฮ็กเว็บไซต์

สทศ.โดนแฮ็กเว็บไซต์ เด็กมือดีวาดการ์ตูนเล่นๆ ทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า "สัมพันธ์" ยอมรับถูกหยาม แต่ยังย้ำดูแลระบบข้อมูลนักเรียนได้แน่นอน แถมระบบป้องกันรัดกุม "ไชยยศ" ไม่วางใจ สั่ง สทศ.ตามดมกลิ่นมือดี พร้อมเรียกบริษัทเอาต์ซอร์สวางระบบป้องกันใหม่หวั่นเกิดเหตุซ้ำรอยอีก ด้านสอบโอเน็ตเด็กโต ชั้น ม.6 พบสามเณรทุจริต 1 ราย ให้เพื่อนเณรปลอมตัวมาสอบ พร้อมสอบรอบพิเศษ ม.6 สมัคร 22-28 ก.พ.
รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผอ.สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ). กล่าวยอมรับว่า เป็นความจริงที่มีกระแสข่าวว่าเว็บไซต์ของ สทศ.ถูกแฮ็กข้อมูล ตนได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่แล้วว่ามีการแฮ็กข้อมูลเข้ามาจริง แต่เป็นการแฮ็กข้อมูลเข้ามาหน้าเว็บไซต์ของ สทศ.เท่านั้น โดยเข้ามาในเวลา 23.00 น. ของวันที่ 20 ก.พ. ถึงเวลา 01.00 น. ของวันที่ 21 ก.พ. และช่วงเวลา 0.20 น. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบก็ได้สั่งปิดหน้าเว็บไซต์ทันที พร้อมทั้งมีการเปลี่ยนข้อมูลที่จะเข้าระบบใหม่ เนื่องจากทราบว่าคนที่เข้ามานั้นใช้วิธีสุ่มข้อมูลที่จะเข้าระบบ โดยเจ้าหน้ารายงานอีกว่า เบื้องต้นคนที่แฮ็กเข้ามาได้วาดรูปการ์ตูนหน้าเว็บไซต์ของ สทศ.เท่านั้น โดยไม่ได้เข้ามาแก้ไขข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น
"ผมยืนยันว่า สทศ.มีระบบป้องกันข้อมูลของนักเรียนอย่างดี ดังนั้นไม่มีใครสามารถเข้ามาแก้ไขข้อมูลได้แน่นอน ดังนั้นฝากนักเรียนไม่ต้องกังวล ส่วนสาเหตุที่มีคนเข้ามาแฮ็กข้อมูลครั้งนี้น่าจะเกิดจากอยากลองวิชา และเท่าที่ทราบมีเกือบทุกปี แต่ สทศ.ป้องกันได้ อีกทั้งผมได้สั่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งจำกัดคนที่จะมาดูข้อมูลหน้าเว็บไซต์ของ สทศ.มากขึ้น จากที่เดิมจะดูหลายคนก็จะจำกัดคน และที่สำคัญ สทศ.ประสานขอความร่วมมือจากกระทรวงไอซีทีมาตามจับคนที่เข้ามาแฮ็กข้อมูล เพื่อจะได้นำมาลงโทษให้ถึงที่สุด เนื่องจากทำผิดกฎหมาย" รศ.ดร.สัมพันธ์กล่าว
ด้านนายไชยยศ จิรเมธากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ตนได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้วยืนยันว่าข้อมูลไม่ได้ถูกแฮ็ก 100% เป็นเพียงการแฮ็กข้อมูลเข้ามาหน้าเว็บไซต์ของ สทศ.เท่านั้น อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ สทศ.ตรวจสอบว่าเป็นฝีมือใครเพื่อลงโทษต่อไป พร้อมทั้งได้สั่งการให้เรียกบริษัทที่ทำข้อมูล outsource มาวางระบบการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก
ส่วนจัดสอบแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐานหรือโอเน็ต ปีการศึกษา 2553 สำหรับนักเรียน ม.6 พร้อมกันทั่วประเทศ วันที่ 19-20 ก.พ.ที่ผ่านมา นายสัมพันธ์กล่าวว่า สทศ.ได้ทำการตรวจเยี่ยมสนามสอบและสอบถามศูนย์สอบ จำนวน 19 ศูนย์ทั่วประเทศ พบว่า ในภาพรวมการจัดสอบเรียบร้อยดี แต่เบื้องต้นมีการรายงานจากสนามสอบโรงเรียนหนองเรือวิทยา จ.ขอนแก่น ศูนย์สอบมหาวิทยาลัยขอนแก่น พบมีการทุจริต 1 ราย สอบวิชาสังคมศึกษา วันที่ 19 ก.พ. โดยเป็นสามเณรมาสอบแทนเพื่อนที่เป็นสามเณรด้วยกัน โดยมีการปลอมแปลงบัตรประจำตัวผู้เข้าสอบ โดยผู้เข้าสอบนำรูปตนเองมาติดแทน แต่กรรมการคุมสอบจับได้ โดยดูจากลายเซ็นชื่อของผู้เข้าสอบกับลายเซ็นที่บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบซึ่งไม่ตรงกัน เนื่องจากเณรที่มาสอบแทนได้เซ็นชื่อของตนเองแทนผู้มีสิทธิ์สอบ
นอกจากนี้ เบื้องต้นพบว่ามีการทำผิดระเบียบ 2 ราย คือ ศูนย์สอบมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จ.นครศรีธรรมราช 1 ราย และสนามสอบโรงเรียนกัลยาณี 1 ราย โดย 2 รายได้นำโทรศัพท์เข้าห้องสอบวิชาคณิตศาสตร์ และระหว่างที่ทำข้อสอบโทรศัพท์ดังขึ้น แต่เด็กยังไม่ได้รับ กรรมการคุมสอบจับได้ก่อนและให้ออกจากห้องสอบทันที และจากนี้สนามสอบทั้งหมดจะต้องรายงานข้อมูลเป็นลายอักษรเสนอศูนย์สอบที่รับผิดชอบ และส่งมาที่ สทศ.เพื่อนำเสนอคณะกรรมกรรมการบริหาร สทศ. ตัดสินลงโทษต่อไป
  ส่วนกำหนดจัดสอบโอเน็ตรอบพิเศษสำหรับนักเรียน ม.6 โดยสมัครสอบทางไปรษณีย์ และสมัครด้วยตนเองที่ สทศ. วันที่ 22-28 ก.พ. สอบวันที่ 14-15 มี.ค. ประกาศผลสอบวันที่ 10 เม.ย. ทั้งนี้นักเรียนที่จะสมัครสอบรอบพิเศษจะต้องเกิดเหตุสุดวิสัยจริงๆ โดยเหตุสุดวิสัยจะรวมไปถึงกรณีจากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนด้วย แต่ที่สำคัญผู้สมัครจะต้องมีหลักฐานมาแสดง โดยมีใบรับรองแพทย์ ใบรับรองจากทางโรงเรียน และนักเรียนจะต้องดาวน์โหลดใบสมัครทางเว็บไซต์ สทศ. ทั้งนี้การสมัครจะต้องเสียค่าสมัครวิชาละ 100 บาท แต่ยกเว้นค่ามัดจำ 300 บาท


ที่มา : ไทยโพสต์